เพิ่มยอดขายด้วย Data-Driven Marketing เทคนิคการตลาดรูปแบบใหม่

หมดยุคทำการตลาดแบบดั้งเดิม ยอดขายพุ่ง ด้วยกลยุทธ์ Data-Driven Marketing

กลยุทธ์การตลาดคือสิ่งที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่ตลอด เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็ทำให้เกิดกลยุทธ์ใหม่ ๆ ตามมา ซึ่งบทความนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับ Data-Driven Marketing กลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นการใช้ “ข้อมูล” ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อเพิ่มยอดขาย มาดูกันเลยว่าการตลาดที่ใช้ข้อมูลเป็นหลัก จะแตกต่างจากการตลาดรูปแบบเดิม ๆ อย่างไร เพิ่มยอดขายได้ด้วยวิธีใด พร้อมยกตัวอย่างแบรนด์ระดับโลก ที่ประสบความสำเร็จจากการใช้เทคนิคการตลาดรูปแบบนี้

Data-Driven Marketing คืออะไร ?

Data-Driven Marketing คือการตลาดที่ใช้ข้อมูลเพื่อนำทาง โดยข้อมูลจะถูกนำมาจาก ระบบ CRM , Loyalty Program หรือ การเก็บข้อมูลรูปแบบอื่น ๆ ที่แต่ละธุรกิจนั้นใช้งาน ทั้งหมดก็เพื่อที่จะนำข้อมูลต่าง ๆ มาวิเคราะห์และเก็บข้อมูลลูกค้า จากนั้นก็จะนำข้อมูลที่เก็บเอาไว้ ไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อกลยุทธ์ด้านการตลาด ยกตัวอย่างเช่น ใช้เพื่อวางแผนสร้างแคมเปญโฆษณา , ใช้เพื่อสร้าง Customer Retention รักษาลูกค้าเก่าเอาไว้ให้เหนียวแน่นที่สุด หรือ ประยุกต์ใช้กับ Marketing Automation สร้างแผนการตลาดในรูปแบบใหม่ ๆ เป็นต้น

ประโยชน์ของ Data-Driven Marketing ต่อการดำเนินธุรกิจ

หากให้กล่าวถึงประโยชน์ของ Data-Driven Marketing ต่อการดำเนินธุรกิจ คงต้องขอยกตัวอย่างที่กล่าวถึง แบรนด์ที่เคยนำเอาเทคนิคนี้ไปใช้เพื่อทำการตลาด มีผลกำไรที่เพิ่มขึ้นมากกว่าถึง 6 เท่า เมื่อเทียบกับแผนการตลาดรูปแบบเดิม ๆ จากการวิเคราะห์ที่ลงลึกไปมากกว่าในส่วนของผลกำไร เราจะเห็นได้ว่า Data-Driven Marketing ช่วยทำให้ธุรกิจ “เดินทางไปในจุดที่ควรจะไป” ด้วยการใช้ข้อมูลต่าง ๆ ที่มีในฐานข้อมูลมาวิเคราะห์ ลดความผิดพลาดจากการลงทุนที่สูญเปล่า เพิ่มความแม่นยำในการเลือกเป้าหมายในแคมเปญโฆษณา และ นำความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภค มาพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงความต้องการของท้องตลาดมากที่สุด เป็นต้น

วิธีการทำ Data-Driven Marketing ให้ประสบผลสำเร็จ

เมื่อได้รู้ถึงประโยชน์ของ Data-Driven Marketing มาพอสมควรแล้ว ข้อสงสัยต่อมาที่เกิดขึ้นกับเจ้าของกิจการคือ จะทำมันได้อย่างไร ? ในส่วนนี้ก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะเราได้นำเอาแนวคิดของการทำการตลาดด้วยข้อมูล มาให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีวิธีการทำเบื้องต้นดังต่อไปนี้

• ต้องมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเอาข้อมูลต่าง ๆ ไปใช้อย่างชัดเจน
• เก็บข้อมูลที่ต้องการ ซึ่งต้องมั่นใจว่าข้อมูลที่ได้แม่นยำ น่าเชื่อถือ และ มีการจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ
• เปลี่ยน “ข้อมูลดิบ” ให้กลายเป็น “ข้อมูลเชิงลึก” เพื่อให้สามารถต่อยอดข้อมูลเหล่านั้นได้มากขึ้น

นำข้อมูลเชิงลึกที่ได้มาใช้เพื่อวางกลยุทธ์การตลาด และ วัดผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง

เครื่องมือสำหรับการทำ Data-Driven Marketing ที่ควรมีสำหรับธุรกิจ

แน่นอนว่าการที่จะมีข้อมูลสำหรับการทำ Data-Driven Marketing จำเป็นต้องมี “ข้อมูลขาเข้า” เสียก่อน ซึ่งในปัจจุบันก็ต้องมองหา ระบบ CRM หรือ โปรแกรม POS ที่จะจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ของลูกค้าเอาไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าเลือกใช้แพลตฟอร์มดี ๆ ก็สามารถจัดทำ Loyalty Program เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม เปลี่ยนลูกค้าใหม่ให้กลายเป็นลูกค้าประจำ หรือ นำข้อมูลที่ถูกจัดเรียงเอาไว้อย่างเป็นระบบระเบียบ เพื่อใช้กับ Marketing Automation ลดทั้งในส่วนของ เงินทุน และ ระยะเวลา ของการทำการตลาดได้เป็นอย่างดี ที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็นการทำ Data-Driven Marketing ทั้งสิ้น

ตัวอย่างแบรนด์ที่ทำ Data-Driven Marketing แล้วประสบความสำเร็จ

ถ้าให้ยกตัวอย่าง แบรนด์ระดับโลกที่ใช้กลยุทธ์ Data-Driven Marketing จนประสบความสำเร็จ เราขอยกตัวอย่างไปที่ NETFLIX สตรีมมิงชื่อดังอันดับโลก ที่บุกเบิกแนวทางการให้บริการดูภาพยนตร์คุณภาพสูง แบบถูกลิขสิทธิ์เจ้าแรก ๆ ของโลก โดยการใช้ข้อมูลของผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็น ประวัติการรับชม เวลาที่ใช้เพื่อรับชม ไปจนถึงการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในแอปพลิเคชั่น สังเกตได้ว่าเมื่อเราใช้งาน NETFLIX ไปสักพักแล้ว ภาพยนตร์ที่มีแนวโน้มว่าเราจะชื่นชอบ จะทำการแนะนำขึ้นมาอยู่บ่อย ๆ พร้อมกับใช้แคมเปญโฆษณา ที่เจาะตลาดของผู้ชมในแต่ละประเทศ

เท่านั้นยังไม่พอเมื่อมีลูกค้าที่มีแนวโน้มว่าต้องการ “ยกเลิกสมาชิก” NETFLIX จะคอยสังเกตพฤติกรรมการใช้แอปพลิเคชั่นว่าเปลี่ยนไปในทิศทางใด จากนั้นก็จะเรียนรู้ และ ปรับให้อัลกอริทึมทำความเข้าใจว่า เมื่อสมาชิกมีพฤติกรรมเช่นนี้ มีโอกาสสูงที่จะถูกยกเลิกสมาชิก ให้นำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ายังอยากใช้บริการต่อ เป็นต้น

สรุป

เนื้อหาทั้งหมดในบทความนี้ น่าจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้แล้วว่า การทำ Data-Driven Marketing ส่งผลดีต่อธุรกิจมากเพียงใด แม้จะเป็นแบรนด์ดังระดับโลก ก็เลือกใช้กลยุทธ์แบบนี้เช่นเดียวกัน แล้วธุรกิจของคุณล่ะ ? พร้อมแล้วหรือยังกับเทคนิคการตลาดรูปแบบนี้ ถ้าพร้อมแล้วแต่ยังไม่มีอุปกรณ์ที่จะใช้ ขอแนะนำ D-Dots

D-Dots เป็นผู้ให้บริการ Customer Engagement Platform ที่ให้ได้มากกว่า ระบบ CRM เพราะสามารถเป็น Marketing Automation ไปพร้อม ๆ กันได้ ช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า เพิ่มยอดขายให้มากขึ้นอย่างมั่นคง และ ตอบสนองความต้องการขององค์กรได้อย่างครบวงจร หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @DDOTS.TH หรือ โทร 086-666-8420 , 081-483-7722